เมทัลชีท (Metal Sheet) คือ แผ่นเหล็กที่ผ่านการรีดเป็นลอน แล้วนำไปเคลือบด้วยโลหะผสมระหว่างอะลูมิเนียมและสังกะสี (อลูซิงก์) จากนั้นมักเคลือบสีเพิ่มเติม มีคุณสมบัติเด่นคือมีน้ำหนักเบา แข็งแรง และติดตั้งง่าย จึงนิยมใช้เป็นวัสดุมุงหลังคา ทำผนัง และรั้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโลหะจึงนำความร้อนได้ดี จึงควรติดฉนวนกันความร้อนเสริมเพื่อช่วยลดอุณหภูมิและเสียง 

เมทัลชีทแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ลอนหลังคา (เช่น ลอนมาตรฐาน, ลอนสเปน, ลอนซากุระ) และ ระบบการติดตั้ง (เช่น ระบบยิงสกรู, ระบบคลิปล็อค) นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งตาม วัสดุเคลือบ (เช่น แบบเคลือบสีป้องกันการกัดกร่อน และแบบไม่เคลือบสี) และ การเสริมฉนวนกันความร้อน (เช่น แบบธรรมดา, แบบมีฉนวน PU, หรือแบบ PE)

ประเภทของแผ่นเมทัล ชีท (Metal Sheet) และฉนวนกันความร้อนที่นิยมใช้

1. ประเภทของแผ่นเมทัล ชีทตามรูปแบบลอน

 แผ่นเมทัล ชีทสามารถแบ่งตามลักษณะของลอนได้หลายประเภท เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและดีไซน์ที่แตกต่างกัน:

     - ลอนมาตรฐาน (Corrugated Sheet) เป็นรูปแบบที่ใช้กันทั่วไป มีลักษณะเป็นลอนลูกฟูก ความกว้างของแผ่นจะแตกต่างกันไป นิยมใช้สำหรับหลังคา โรงงาน อาคารทั่วไป และโกดัง ติดตั้งง่าย และมีร่องระบายน้ำที่ดี
     - ลอนพาแนลริบ (Panel Rib) หรือลอนหลังคาแบบมีสัน: มีสันลอนที่สูงและแข็งแรงกว่าลอนมาตรฐานเล็กน้อย มักใช้สำหรับหลังคาอาคารที่ต้องการความทันสมัยและแข็งแรงยิ่งขึ้น
     - ลอนผนัง (Wall Cladding) มีลอนที่ตื้นกว่าลอนหลังคา ออกแบบมาเพื่อใช้เป็นวัสดุหุ้มผนังโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่เรียบและทันสมัยมากขึ้น
     - ลอนคลิปล็อก (Standing Seam) เป็นลอนที่มีการติดตั้งแบบซ่อนสกรู (Screwless System) โดยการยึดแผ่นเข้ากับแปด้วยคลิปล็อก ทำให้ไม่เห็นหัวสกรู   บนแผ่นหลังคา ช่วยลดปัญหารั่วซึมได้อย่างดีเยี่ยม และนิยมใช้สำหรับอาคารพรีเมียมหรือหลังคาที่มีความลาดเอียงน้อย

2. ประเภทของฉนวนกันความร้อนที่ใช้ร่วมกับเมทัล ชีท
เนื่องจากเมทัล ชีทนำความร้อนได้ดี การติดตั้งฉนวนจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความร้อนที่ถ่ายเทเข้าสู่ตัวอาคารและลดเสียงดังเวลาฝนตก วัสดุฉนวนที่นิยมใช้มีดังนี้: 
          แบบโฟม PE : ราคาถูกกว่า แต่ฉนวนอาจบางและมีการหลุดร่อนได้ง่ายกว่า
          ​แบบโฟม PU/PS : มีคุณสมบัติที่ดีกว่าในเรื่องความทนทานและป้องกันการลามไฟเมื่อผสมสารหน่วงไฟ แต่มีราคาสูงกว่า